ประวัติ ยานนิส อันเททูคุมโป MVP ของมิลวอกี บักส์

ประวัติ ยานนิส อันเททูคุมโป

ประวัติ ยานนิส อันเททูคุมโป (Giannis Antetokounmpo) หากพูดถึง MVP ในเอ็นบีเอที่แข็งแกร่งที่สุด เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงต้องยกให้กับเพาเวอร์ฟอร์เวิร์ด จากยุโรปที่สู้เคียงบ่าเตียงไหล่ให้กับทีม มิลวอกี บัคส์ มาอย่างยาวนาน จนสามารถพาทีมคว้าแชมป์สมัยที่ 2 ในรอบ 50 ปี ได้สำเร็จในปี 2021 ซึ่งในปีนั้นเขาสามารถคว้ารางวัลส่วนตัวรางวัลใหญ่ได้ถึง 2 รายการเลยทีเดียว วันนี้เราจะพาทุกท่านมาพบกับประวัติของพญากวางแห่งทีมมิลวอกี บัคส์ ว่าเขามีที่มาที่ไปอย่างไร ถึงมาโด่งดังในทุกวันนี้ได้

ประวัติส่วนตัว ยานนิส อันเททูคุมโป (Giannis Antetokounmpo)

ชื่อเต็ม :: ยานนิส อันเททูคุมโป (Giannis Sina Ugo Antetokounmpo)

เกิดวันที่ :: 6 ธันวาคม 2537 (28 ปี)

สถานที่เกิด :: เอเธนส์, กรีซ

สัญชาติ :: กรีก / ไนจีเรีย

ส่วนสูง :: 213 cm.

ปีที่เข้าร่วม NBA :: 2013 / ดราฟต์อันดับ 15

ทีมปัจจุบัน :: มิลวอกี บัคส์

ตำแหน่ง :: เพาเวอร์ฟอร์เวิร์ด, สมอลฟอร์เวิร์ด

สวมเสื้อหมายเลข :: 34

ประวัติส่วนตัว ยานนิส อันเททูคุมโป (Giannis Antetokounmpo)

ยานนิส อันเททูคุมโป เขาเกิดที่เมือง เอเธนส์ ประเทศกรีซ ในย่านตอนเหนือของเมืองที่เรียกว่า ซิมโบลิค เขาเป็นลูกชายของ ชาร์ล อันเททูคุมโป ซึ่งเป็นนักฟุตบอลของไนจีเรีย และคุณแม่ เวโรนิก้า อันเททูคุมโป ซึ่งทั้งคู่ได้มีลูกชายทั้งหมดถึง 5 คน โดยทั้งหมดมีชื่อว่า ฟรานซิส , ธานาซิส , ยานนิส , คอสตาส และอเล็กซ์ อันเทโทคุมโป ซึ่งพ่อแม่ของเขาได้ตัดสินใจย้ายจากไนจีเรียหลังจากที่มีลูกคนแรก และหลังจากนั้นเราจึงค่อยมีลูกเพิ่มอีก 4 คน ซึ่งครอบครัวของเขานั้นมีความยากจนเป็นอย่างมาก เนื่องจากพ่อของเขาเป็นชาวอพยพจึงทำให้หางานยากซึ่งทำให้ครอบครัวของเขาลำบากมาก ๆ

ซึ่ง ยานนิส กับพี่ชายของเขาได้ช่วยกันเอานาฬิกา และของเก่าออกไปหาเร่ขายตามที่ต่าง ๆ ซึ่งทั้งคู่นั้นมีความยากจนมาก ๆ จนกระทั่งพวกเขาอายุ 13 ปี ก่อนที่ ยานนิส อันเททูคุมโป จะตัดสินใจเริ่มเล่นบาสเกตบอล สำหรับ ยานนิส ขอเป็นเด็กที่เติบโตมากับกีฬาฟุตบอล เนื่องจากในวัยเด็กเขานั้นชอบติดตามพี่ชายของเขาไปที่สนาม เพื่อไปดูพี่ชายของเขาเล่นบาสเกตบอลในทุก ๆ วัน จนกระทั่งโค้ชได้ชักชวนให้เขาให้ลองมาเล่นกีฬาชนิดนี้ดู ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเปลี่ยนทำให้เขาหลงไหลในกีฬาบาสเกตบอลมากขึ้น

ถึงแม้ในตอนแรกตัวเขาจะเล่นบาสเกตบอลไม่เป็นเลย แต่สิ่งหนึ่งที่เขามีมาโดยตลอดนั่นก็คือความมุ่งมั่นในการฝึกซ้อม จนสุดท้ายขอได้โอกาสในการเข้าไปเล่นในลีกกึ่งอาชีพ และสามารถเข้าไปเล่นในลีกอาชีพของประเทศกรีซได้ในที่สุด ถึงแม้ว่าจะเป็นลีกในดิวิชั่น 2 ก็ตาม ก่อนที่สุดท้ายตัวเขาจะประกาศเข้าสู่ NBA Draft ในปี 2013 และทำให้ชีวิตของเขานั้นเริ่มเปลี่ยนไป

ยานนิส อันเททูคุมโป จากดิน สู่ดาวเด่น NBA

ซึ่งในดราฟต์ปี 2013 มีเหล่านักบาสดาวเด่นมากมายที่มีชื่อเสียงโด่งดังในขณะนี้ แต่แมวมองของมิลวอกี บัคส์ ที่มองเห็นศักยภาพของเด็กหนุ่มผอมแห้งจากกรีซคนนี้ ว่าเขามีความสามารถพอที่จะเข้ามาช่วยทีม และสุดท้ายจริงก็ได้เลือกเขาในอันดับที่ 15 ซึ่งการลงสนามใน NBA ครั้งแรกของเขาในอายุเพียง 18 ปีกลับอีก 318 วัน ซึ่งถือว่าเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดของ nba ในอันดับที่ 16 ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครรู้จักชื่อเสียงของเขาเลยแม้แต่คนเดียว และตัวเขาก็แสดงให้เห็นว่าเขานั้นสามารถพัฒนาการเล่นได้มากกว่านี้

จนเวลาผ่านไปขอก็สามารถได้รับความไว้วางใจจากโค้ช และเพิ่มนาทีในการลงสู่สนามมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในระยะเวลาดังกล่าวก็มีเรื่องราวที่น่าจดจำที่เขาได้ออกมาเล่าอย่างมากมาย และเรื่องที่เขายังภาคภูมิใจในตอนนั้นคือเงินค่าเหนื่อยก้อนแรกของเขาที่ได้มา และส่งไปให้ครอบครัวของเขาที่ประเทศกรีซทั้งหมดที่เขามี จนกระทั่งเขาไม่เหลือเงินที่จะจ่ายค่ารถแท็กซี่ในการที่จะไปซ้อมบาสกับทีมในวันนั้น

ซึ่งในฤดูกาลแรก ยานนิส ลงสนามไปถึง 77 เกมและได้ลงสนามเป็นตัวจริงถึง 23 เกมเขามีสถิติอยู่ที่ 6.8 แต้ม 4.4 รีบาวด์ 1.9 แอสซิสต์และการจบสกอร์สูงถึง 41.4 เปอร์เซ็นต์ อาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนักแต่ตัวเขาก็ทำผลงานเข้าตาโค้ชใน NBA อยู่หลายคนจนกระทั่งได้รับโหวตให้ติดใน NBA All Rookie ทีมสองเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าผลงานของทีมจะไม่ได้ดูดีมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่สวยงามสำหรับ ยานนิส อันเททูคุมโป เลยก็ว่าได้ก่อนที่ตัวเขาจะกลายร่าง ในอนาคตอันใกล้นี้

ฤดูกาล 2014-15 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงของทีมเกิดขึ้นอย่างมากมาย หนึ่งในนั้นคือการเปลี่ยนหัวหน้าโค้ช และได้ เจสัน คิดส์ เข้ามารับหน้าที่นี้ แต่พวกเขาก็ตัดสินใจพลาดในการดราฟต์ปีนั้นหลังจากที่มิลวอกี บัคส์ ไม่ได้เลือก โจเอล เอ็มบีด เข้ามาร่วมทีมในตอนนั้น แต่สภาพทีมโดยรวมก็ถือว่าดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา หลังจากที่พวกเขาสามารถเอาชนะได้ถึง 15 จาก 30 เกมส์ ซึ่งถือว่าเป็นครึ่งต่อครึ่งของฤดูกาลที่ผ่านมาเลยทีเดียว

ซึ่งในฤดูกาลนี้ตัวของยานนิส อันเททูคุมโป ลงสนามไปถึง 81 เกมและเป็นตัวจริงไปถึง 71 เกมด้วยค่าเฉลี่ย 12.7 แต้ม 6.7 รีบาวด์ 2.6 แอสซิสต์และการจบสกอร์เพิ่มขึ้นเป็น 49.1 เปอร์เซ็นต์ และสามารถพาทีมเข้าสู่รอบเพลย์ออฟได้ในอันดับที่ 6 ถึงแม้ว่าสุดท้ายจะไปพ่ายให้กับ ชิคาโก้ บลู 4-2 เกมส์

ซึ่งในฤดูกาล 2015-16 และปีต่อ ๆ มา ผลงานของยานนิส ก็ได้พัฒนาดีขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่ทะว่าผลงานของทีมนั้นกลับตกลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ตัวต่อก็พยายามสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองจนเป็นที่รู้จักไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งจากผลงานของเขาก็ทำให้ทางทีมตกลงต่อสัญญามูลค่าถึง 4 ปี 100ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นค่าตัวที่แพงที่สุดเป็นอันดับสองในตอนนั้นเลยทีเดียว ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวังสามารถทำผลงานที่ก้าวกระโดดขึ้นไปได้อย่างที่แฟน ๆ ต้องการ

จนสุดท้ายก็สามารถคว้ารางวัลผู้เล่นพัฒนาฝีมือยอดเยี่ยมมาครองเอาไว้จนได้ และยังสามารถ All NBA ทีมสองได้ในปีนั้นอีกด้วย ถึงแม้ว่าผลงานของเขาจะดีแค่ไหน แต่ผลงานของทีมนั้นก็ไม่ได้ดีขึ้น แล้วมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จนกระทั่งฤดูกาล 2019-20 จากทีมที่มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก สุดท้ายขอก็สามารถพาทีมขึ้นเป็นอันดับ 1 ของลีกได้ในปีนั้น แต่สุดท้ายเขาก็พลาดท่าไปไม่ถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งทำให้เขาเสียใจเป็นอย่างมาก

ถึงแม้ว่าผลงานของทีมจะไม่ได้ดั่งหวัง แต่เขาก็สามารถคว้ารางวัลส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดครั้งแรกมาครองได้สำเร็จ นั่นก็คือรางวัล MVP ซึ่งถือว่าเป็นอันดับที่ 4 ในประวัติศาสตร์ของ NBA ที่เกิดนอกอเมริกาและสามารถคว้ารางวัลนี้ไปครองได้ ฤดูกาล 2019-20 เขาสามารถสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ทีมได้อีกครั้งด้วยลีลาการเล่นที่โดดเด่นขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังไม่สามารถพาทีมประสบความสำเร็จได้เช่นเคย แต่ตัวเขาก็ได้รับรางวัลผู้เล่นป้องกันยอดเยี่ยมมาครอบครองในปีนั้นแทน

จนสุดท้ายแสงสว่างก็มาถึงในฤดูกาล 2020-21 มิลวอกี บัคส์ ทำผลงานออกมาได้อย่างดีเยี่ยม และขึ้นเป็นอันดับ 1 ของลีกอีกครั้ง และยานนิส อันเททูคุมโป สามารถพาทีมทะลุเข้าไปถึง NBA Final ได้สำเร็จและตัวเขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์ NBA ในรอบ 50 ปี อีกทั้งยังสามารถคว้ารางวัล NBA Final MVP มาครองเป็นครั้งแรกได้สำเร็จ ซึ่งจากผลงานที่โดดเด่นในที่ผ่านมาทำให้แฟนบาสทั่วโลกเริ่มมาติดตามเขามากขึ้น และในปัจจุบันเขาก็สามารถทำผลงานออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งถือว่าเป็นตัวอย่างของนักกีฬาในรุ่นหลัง ๆ อย่างมาก