เว็บบาสเกตบอล

ประวัติ โจเอล เอ็มบีด จากผู้เล่นไร้ค่า สู่ซุปเปอร์สตาร์NBA

ประวัติ โจเอล เอ็มบีด

     ประวัติ โจเอล เอ็มบีด (Joel Embiid) จากผู้เล่นที่ไร้ค่าไม่มีใครให้ความสนใจเลยแม้แต่น้อย สู่เซ็นเตอร์ระดับซุปเปอร์สตาร์ของ NBA เชื่อได้ว่าหลายคนคงรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเขามาอยู่บ้าง กับบิ๊กแมนจากทีม Philadelphia 76ers ที่มีการเล่นอย่างโดดเด่น และเกือบพาทีมลุ้นแชมป์มาแล้วหลายรอบ เขาเป็นใครมีที่มาที่ไปมาอย่างไร เราจะพาทุกท่านไปทราบประวัติส่วนตัวของโจเอล เอ็มบีดกัน

ประวัติส่วนตัว โจเอล เอ็มบีด (Joel Embiid)

  • ชื่อ :: โจเอล เอ็มบีด (Joel Hans Embiid)
  • เกิดวันที่ :: 16 มีนาคม 2537 (29 ปี)
  • สถานที่เกิด :: ยาอุนเด, ประเทศแคเมอรูน
  • สัญชาติ :: ฝรั่งเศส, อเมริกัน, แคเมอรูน
  • ส่วนสูง :: 213 cm.
  • ปีที่เข้าร่วม NBA :: 2014 / ดราฟต์อันดับ 3 
  • ทีมปัจจุบัน :: ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส
  • ตำแหน่ง :: เพาเวอร์ฟอร์เวิร์ด, เซ็นเตอร์
  • สวมเสื้อหมายเลข :: 21
โจเอล เอ็มบีด

     โจเอล เอ็มบีด (Joel Hans Embiid) เกิดวันที่ 16 มีนาคม 1994 ที่เมืองยาอุนเดซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศแคเมอรูน โดย โจเอล เอ็มบีด มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ซึ่งเขาเป็นพี่คนโต พ่อและแม่ของเขาคือ โทมัส และคริสติน เอ็มบีด โดย โจเอล เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อตอนเขาอายุเพียงแค่ 6 ขวบ เขานั้นต้องออกไปต่อสู้กับสิงโต

     เพื่อที่จะได้แสดงให้เห็นว่าตัวเขานั้นมีความเป็นลูกผู้ชาย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก ๆ และแน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงเพราะภายหลังจากนั้น ตัวของ โจเอล เอ็มบีด ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนั้นว่าเขานั้นได้สร้างเรื่องขึ้นมา เพื่อหลอกเพื่อน ๆ ของเขาที่มหาลัย ตั้งแต่ตอนเด็ก เอ็มบีด เป็นคนที่เล่นกีฬาเก่ง แต่ว่าไม่ได้เก่งในกีฬาบาสเกตบอล

เอ็มบีด

     เขาดันไปเก่งในกีฬาวอลเลย์บอล จนเขานั้นเกือบที่จะได้ไปแข่งวอลเลย์บอลลีกในยุโรปอีกด้วย และนอกจากวอลเลย์บอลเขาก็ยังเล่นฟุตบอล ซึ่งหากดูการเล่นของเขาในทุกวันนี้ก็จะเห็นสกิลการรีบาวด์ที่ได้มาจากการเล่นวอลเลย์บอล ที่สามารถกระโดดขึ้นไปได้อย่างรวดเร็ว และฟุตเวิร์คที่ยอดเยี่ยมที่อาจจะได้มาจากการเล่นฟุตบอล แต่ที่แน่ ๆ เอ็มบีด ได้กล่าวว่าการแสดงเวลาโดนฟาวล์ของเขานั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นคนตัวใหญ่มากแต่ก็ล้มบ่อยเหลือเกิน ก็ได้มาจากการเล่นกีฬาฟุตบอล และการล้มของเขาก็ช่วยปกป้องขา ที่อาจจะเกิดอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นได้ถ้าล้มไม่ดี

ก้าวแรกของโจเอล เอ็มบีด สู่โลกบาสเกตบอล

โจเอล เอ็มบีด ประวัติ

     โจเอล เอ็มบีด (Joel Embiid) เพิ่งจะมาเริ่มเล่นบาสก็อายุ 15 ปีเข้าไปแล้ว ซึ่งสำหรับคนธรรมดาก็คงไม่ช้าสำหรับการเล่นบาส แต่ถ้าเทียบสำหรับ นักบาส NBA ที่พวกเขานั้นจับลูกบาสกันตั้งแต่ทารก เอ็มบีดก็ถือว่าเริ่มเล่นช้ามากเลยทีเดียว โดยตัวเขานั้นรู้จักกีฬาบาสเพราะโค้ชบาสของโรงเรียน ได้โชว์คลิป นักบาสในตำนาน ของฮิวสตัน รอกเก็ตส์ อย่าง ฮาคีม โอลาจูวอน และหลังจากได้ดูคลิปตัวเขาเองก็ชอบมาก ๆ จนได้ตัดสินใจลองเล่นบาสเกตบอล และเริ่มลอกเลียนแบบสไตล์การเล่นของ ฮาคีม ซึ่งนอกจากนั้นตัวเขาก็ยังชื่นชอบ โคบี้ ไบรอัน ในตอนโตขึ้นมาอีกด้วย และได้ โคบี้ เป็นแรงบันดาลใจเวลาที่เขาเจออุปสรรค

โจเอล เอ็มบีด จบจากมหาลัยไหน

     เอ็มบีด เขาเป็นเด็กที่สูงมากตั้งแต่อายุ 15 โดยตอนนั้นเขาสูงถึง 206 เซ็นติเมตร แต่ตัวเขานั้นก็ไม่มีเบสิคอะไรเลย เล่นบาสแบบเล่น ๆ กับเพื่อน ซึ่งได้มีโอกาสเล่นบาสจริงจังเป็นครั้งแรก ในบาสเกตบอลแคมป์ของ นักบาสทีมชาติแคเมอรูนที่อยู่ใน NBA เรียกว่าเป็นโอกาสกองและเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต โจเอล แต่มันก็เกือบที่จะไม่เกิดขึ้น

     เนื่องจากในวันแรกของแคมป์ ตัวของเอ็มบีดนั้นไม่ได้ไปเนื่องจากกลัวเก่งสู้คนอื่นไม่ได้ จึงตัดสินใจนั่งอยู่บ้านเล่นเกมกับน้องชาย โดยเขาได้กล่าวว่าในตอนนั้น การไปเล่นบาสมหาลัยหรือ nba ในอเมริกานั้นไม่อยู่ในความคิดของเขาด้วยซ้ำ แค่เล่นบาสแบบจริง ๆ จัง ๆ เขายังไม่แน่ใจเลยว่าเขาจะเล่นได้

โจเอล เอ็มบีด Dunk

     แต่หลังจากที่ตัดสินใจไปแคมป์ความสามารถของเขาก็เริ่มแสดงออกมาให้เห็น นอกจากจะสูงแล้วเขาก็ยังเคลื่อนไหวได้ดี ฝีเท้าเร็ว ว่องไวและสามารถชู้ตจากด้านนอกได้ และการกระโดดที่สูง ในจังหวะบล็อกลูกทำแต้มของคู่แข่งได้อย่างเเม่นยำ โชว์ทักษะที่แทบจะไม่เคยเห็นในผู้เล่นตัวขนาดเท่าเขา และหลังจากนั้นไม่นานก็ช่วยให้โจเอล เอ็มบีด ได้ไปเล่นบาสที่สหรัฐอเมริกาได้ตอนอายุ 16 ปี

ก้าวแรกสู่ NBA ของ โจเอล เอ็มบีด

     ซึ่งการเข้าไปเล่นบาสในอเมริกาของเขาไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตั้งแต่วันแรกที่เริ่มการฝึกซ้อมเขาก็โดนเพื่อนร่วมทีมหัวเราะใส่เพราะว่าเสาร์นั้นไม่คุ้นชินกับการเล่นแบบจริงจังขนาดนี้ จนกระทั่งเกิดอาการท้อ จนถึงกระทั่งร้องไห้และอยากกลับบ้าน แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะไม่ยอมแพ้และกลับมาฝึกหนักกว่าทุกคน ซึ่งโค้ดของเขานั้นมักจะเอาคลิปการเล่นของ ฮาคีม โอลาจูวอน มาให้ตัวเขาศึกษา จนตัวเขาได้ทำตามอยู่เรื่อย ๆ และเก่งขึ้นอย่างมาก

เอ็มบีด โจเอล เอ็มบีด

     จนเขาได้ตัดสินใจเช่ามาอยู่ที่ Kansas University แต่ในการเล่นมหาลัยครั้งแรกเขาก็โดนเพื่อนร่วมทีมที่อายุโตกว่าดั๊งค์ใส่ ทำให้เพื่อนในทีมล้อเขาจนทำให้เกิดอาการท้อ และอยากจะทิ้งทุกอย่างซื้อตั๋วเครื่องบินกลับบ้าน จนเขาได้เข้าไปคุยกับโค้ชว่าจะขอไม่เล่นในปีนี้ แต่โค้ชนั้นก็ปฏิเสธและบอกกับเอ็มบีดอีกว่า เขาจะกลายเป็นผู้เล่นที่ถูกเลือกเป็น อันดับ 1 ใน nba

    แต่ตัวเขาก็มีการเล่นในช่วงมหาลัยเพียงแค่ 23 เกม ก็ต้องเจอกับปัญหาการบาดเจ็บที่บริเวณหลังจนทำให้ต้องพักรักษาตัว แต่เนื่องจากผลงานที่ทำไว้ดี เขาจึงได้รับรางวัลผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยมในปีนั้นไปครอง และประกาศเข้าสู่ NBA DRAFT2014 ด้วยความสูงที่เพิ่มมากขึ้น ถึง 213 ซม. และเป็นรูปร่างที่ดีมากสำหรับเซ็นเตอร์

draft2014

     ซึ่งก่อนวันดราฟ กลัวเขาก็เกิดปัญหาอาการบาดเจ็บที่บริเวณข้อเท้าจึงต้องพักรักษาตัวไปในระยะหนึ่ง จนสุดท้ายเขาได้ตกมาอยู่ใน DRAFT อันดับที่ 3 ที่เลือกโดยทีมฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส ซึ่งถ้าไม่เกิดอาการบาดเจ็บเขาอาจจะโดนเลือกเป็นอันดับ 1 เลยก็ได้ ซึ่งหลังจากที่เขาเข้าสู่ NBA ก็ได้รับข่าวร้าย หลังจากที่น้องชายของเขานั้นเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ตัวเขานั้นคิดอยากจะเลิกเล่นบาสอีกครั้ง

    ซึ่งเขาก็ได้ตัดสินใจสู้ในกีฬาบาสต่อ แต่ใน ฤดูกาล2014-15 เขาก็ต้องพลาดการลงเล่นเนื่องจากต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าไปทั้งซีซั่น และใน ฤดูกาล2015-16 ก็ได้เกิดข่าวร้ายขึ้นอีกเนื่องจาก ข้อเท้าของเขายังหายไม่ดี จึงทำให้พลาดการลงเล่นไปอีกหนึ่งซีซั่น หลังจากการลงเล่นในเกมแรกของ NBA เขานึกว่าจะโดนแฟน ๆ ทีมโห่ใส่ซะด้วยซ้ำเพราะไม่ยอมลงทำการแข่งขันสักที

Joel Hans Embiid

     เนื่องจาก ทีมซิกเซอร์ส ในตอนนั้น ตั้งใจแพ้มาหลายซีซั่นเพื่อที่จะได้ดราฟดี ๆ เข้ามาสู่ทีมแต่แฟน ๆ นั้นก็เข้าใจถึงแผนการของ ซึ่งผลคือได้ตัวเขาเข้ามาจนได้ฉายาว่า “THE PROCESS” ซึ่งแปลว่าเชื่อในแผนการ ซึ่งในเกมแรกของเขาก็ทำผลงานออกมาได้อย่างดี ทำ 20 แต้ม 7 รีบาวน์ กับอีก 2 บล็อก ใน 25 นาทีที่ลงทำการแข่งขัน ซึ่งใน ฤดูกาล2016-17 เขาได้ทำคะแนนเฉลี่ย 20 แต้ม 8 รีบาวน์ กับอีก 2 แอสซิสต์ และ 2.5 บล็อกต่อเกมส์ เฉลี่ยเกมละ 25 นาที จนได้รับเลือกให้ติดใน NBA All Rookie First Team ในปีนั้น

    ฤดูกาล 2017-18 โจเอล เอ็มบีดมีผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง 23 แต้ม 11 รีบาวน์ 3 แอสซิสต์และอีก 2 บล็อกต่อเกมส์ และได้รับเลือกเข้าติด ALL STAR NBA ครั้งแรก ซึ่งย้อนกลับไปในปี 2014 ตัวเขานั้นได้ไปจีบนักร้องชื่อดัง แต่ก็โดนปฏิเสธซึ่งเธอได้บอกว่า ไว้ติด all star nba เมื่อไหร่ค่อยกลับมาให้เธอพิจารณาใหม่อีกรอบ แต่สุดท้ายนั้นก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นกับทั้งสองคน

Joel Embiid MVP

     และในฤดูกาลต่อมาจนถึงปัจจุบัน เอ็มบีดก็ทำผลงานดีขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งคนงานส่วนตัวและผลงานของทีม ซึ่งเขาเกือบพาทีมเข้าสู่รอบ NBA Final ได้แต่ก็พลาดท่าได้ไปในเกมส์ 7 จนทำให้เขาเสียใจจนร้องไห้ และในปีถัดมาเขาก็สามารถทำได้อีกครั้งโดยพาทีซึ่งเป็นอันดับ 1 ตาราง เข้าสู่รอบเพลย์ออฟ แต่ก็อกหักอีกรอบหลังจากที่บ้านถ้าให้กับ แอตแลนต้า ฮอว์คส ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างมาก

     จนมาในฤดูกาลล่าสุด ตัวเขาก็ทำผลงานดีขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าทางทีมจะไม่ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ แต่อย่างน้อยรางวัลส่วนตัวของโจเอล เอ็มบีด ก็ได้มีเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา เพราะใน ซีซั่น2022-23 ตัวเขาได้รับเลือกให้ได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่ายอดเยี่ยม หรือ MVP NBA ซึ่งเป็นรางวัลที่เขานั้นภูมิใจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเราก็ปล่อยให้กำลังใจให้เขาพาทีมคว้าแชมป์ให้จนได้

อ่านข่าวบาสเพิ่มเติม :: หน้าแรก

เรื่องก่อนหน้า :: 10 นักบาสที่ดีที่สุด ฤดูกาล2023-2024